วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562

ผิวสวยด้วยสารสกัดเมล็ดองุ่น




สมัยนี้ใครก็อยากใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยในเรื่องความขาว 
กระจ่างใส  ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น 
ใช้แล้วฝ้าไม่ถามหา

การทำสบู่ ไม่ว่าจะสบู่ก้อน หรือสบู่เหลว หรือการทำครีม เจล เซรั่ม
สารสกัดที่มีคุณสมบัติ ช่วยเรื่องความขาว กระจ่างใส
ก็ยังเป็นที่นิยมในท้องตลาดกันอยู่

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น ก็เป็นตัวเลือกอีกตัวที่นักทำสบู่นิยมใช้
เพื่อสบู่ที่ทำออกมา จะตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้
เรามาดูคุณสมบัติของสารสกัดจากเมล็ดองุนกันคะ
ว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง

สารสกัดอีกตัว ที่สามารถเอามาใส่ในสบู่ของเราได้
ช่วยลดริ้วรอย ลดกระ ลดความหมองคล้ำของผิว

สารสกัดเมล็ดองุ่น
จากงานวิจัย พบว่า สารสกัดจากเมล็ดองุ่น 
เมล็ดและเปลือกขององุ่น มีสารฟลาโวนอยด์ 
ที่เรียกว่า โปรแอนโธไซยานิน 
สารนี้เมื่อรวมตัวกันจะอยู่ในรูปของโอริโกเมอริคโปรแอนโธไซยานิน 
สารสกัดเมล็ดองุ่น เปรียบเป็น ซุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์
มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดโรงมะเร็งได้ดีกว่า วิตามินซี 20 เท่า และมากกว่า วิตามินอี  50 เท่า

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระแล้วยังเสริมสร้างคลอลาเจนได้ 
ทำให้ผิวหนังแข็งแรง ช่วยให้ผิวพรรณมีสุขภาพดี
ลดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี  ทำให้ผิวมีเลือดฝาด อ่อนกว่าวัย
สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
เป็นสารชุปเปอร์แอนตี้ออกซิแดนซ์ที่มีประสิทธิภาพสูง
มีสารสำคัญ คือ OPCs ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันการเสื่อมหรือถูกทำลายของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้
เพิ่มความแข็งแรงของคลอลาเจนและอิลาสติน 
บำรุงผิวพรรณให้มึความยืดหยุ่น
คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวพรรณ ช่วยให้ผิวหน้าเนียนใส เปล่งปลั่ง ชะลอริ้วรอยแห่งวัยได้ดีเยี่ยม
ช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานินที่มีมากเกินความจำเป็น ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดกระ ฝ้า และความหมองคล้ำ

อัตราการใช้   0.1-5%
ใส่ในสบู่  ปริมาณที่แนะนำ  3%
ใสในครีม เซรั่ม เจล โลชั่น ปริมาณที่แนะนำ 0.5-1%


➤ได้แต่มอง ก็หมองกันต่อไปค

dani5642


วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2562

สารประสารเนื้อ สำหรับทำครีม เซรั่ม เจล และโลชั่น มีอะไรบ้าง






➢Xanthan Gum


แซนแทนกัม เป็นสารเพิ่มความหนืด ให้กับเจล เซรั่ม ครีม หรือโลชั่น

การผสม
ถ้าในสูตรมีน้ำเป็นส่วนผสม ให้ผสมในน้ำก่อน 
แล้วคนหรือปั่น ด้วยความเร็วสูง แล้วรอประมาณ 20-30 นาที จนกว่าจะเกิดเป็นเนื้อเจลเต็มที่

ถ้าในสูตรมีน้ำมันหรือกรีเซอรีน ให้ผสมในน้ำมันหรือกรีเซอรีนก่อน จึงนำมาผสมร่วมกับน้ำ เพื่อให้ละลายและสร้างเนื้อเจล

แซนแทนกัม ไม่ได้ละลายในน้ำมัน แต่ถ้าในสูตรมีน้ำมัน ต้องเอามาผสมในน้ำมันก่อน เพื่อให้แซนแทนกัมเกิดการกระจายตัวได้ดีขึ้นและละลายในน้ำและสร้างเนื้อเจลได้ง่ายขึ้น

อัตราการใช้  0.1-2% หรือตามความหนืดที่ต้องการ 

INCI Name : Xanthan Gum

➢AP Wax 80
เป็น Emulsifier wax ที่ดีทำให้เกิดเนื้อครีมเนียนเงา 
นุ่มลื่นไม่เหนอะหนะผิว บำรุงผิวให้นุ่ม

วิธีการใช้  ให้ผสมในส่วนของน้ำมัน แล้วนำไปละลาย ด้วยความร้อน 80 องศา

อัตราการใช้  ใส่ในครีม โลชั่น เจล แนะนำ 2-5%

 INCI Name : Polyethylene Glycol1000 Monostearate(PEG-20 stearate)+Cetyl stearyl Alcohol (Cetearyl Alcohol)


➢Aristoflex AVC
เป็นสารประสานเนื้อ ทำให้เกิดเนื้อเจลใส ละลายน้ำได้ง่ายมาก
แค่โปรยลงไปในน้ำ คนให้เข้ากัน แล้ววางทิ้งไว้สักครู่ 
ก็จะได้เนื้อเจลใส  ไม่ต้องปรับค่า pH

อัตราการใช้ แนะนำ 0.5-2%

INCI Name : Ammonium Acryloyldimethyltaurate/VP Copolymer

➢ได้แต่มอง ก็หมองกันต่อคะ

dani5642


5 ทางเลือกจากธรรมชาติ



เราสวยจากภายนอกกันมาแล้ว 
ตอนนี้เรามาสวยจากภายในกันนะคะ
การกินอาหารเสริม ก็จำเป็น 
เลือกอาหารเสริมที่ช่วยให้ฮอร์โมนในร่างกายของเราปกติ 
หรือกินเพื่อช่วยเสริมสิ่งที่เราขาดไปได้
ฉะนั้นเราต้องรู้ข้อมูล และประโยชน์ของอาหารเสริมนั้น
ดานิ นำข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เป็นประโยชน์มาฝากคะ 

จากงานวิจัยพบว่า การใช้ฮอร์โมนเพศหญิงทดแทนในวัยทองอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม โรคหัวใจ และถ้าใช้ในระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และโรคทางสมองอื่น ๆ

การเลือกสมุนไพรธรรมชาติทดแทนการใช้ ฮอร์โมน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อยากแนะนำ มีสมุนไพรหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มระดับของเอสโทรเจนในร่างกายได้ สมุนไพรเหล่านี้ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ  ระคายเคืองช่องคลอด และอาการอื่น ๆ ของวัยทองได้ และที่สำคัญสามารถลดความเสี่ยงของภาวะกระดูกพรุนและโรคหัวใจด้วย

มีอะรบ้างมาดูกันคะ

1น้ำมันอีฟนิงพริมโรส  Evening primrose oil
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด   ลดความดันโลหิต
ช่วยลดน้ำหนัก    บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
บรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ  
ช่วยในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาทอยด์
ชะลอกการลุกลามของโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
ช่วยเด็กที่มีอาการไฮเปอร์
ช่วยลดสิว (เมื่อรับประทานคู่กับสังกะสี)
ช่วยเสริมความแข็งแรงของเล็บมือ
ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในวัยทอง

แนะนำ ให้รับประทาน  1 แคปซูล  วันละ 1-3 เวลา

➢2. ตังกุย 
เป็นสมุนไพรที่ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยทอง 
รวมไปถึงอาการช่องคลอดแห้งและภาวะซึมเศร้า 
ช่วยให้รอบเดือนมาปกติ
ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน
ช่วยเสริมฤทธิ์ของฮอร์โมนเพศหญิง
ช่วยให้ร่างกายใช้ฮอร์โมนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในช่วงหมดประจำเดือน จะช่วยส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนเพศจากต่อมลูกหมวกไต ทดแทนฮอร์โมนเพศที่ลดลงจากรังไข

แนะนำ ให้รับประทาน  1 แคปซูล  วันละ 1-3 เวลา

➢3. ใบแปะก๊วย  
สารสกัดจากใบแปะก๊วย เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ .
ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด 
ช่วยในเรื่องของการคิดและสมาธิ
ช่วยลดอาการตะคริวและอาการเจ็บกล้ามเนื้อ
ช่วยบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ เสียงดังในหู 
ช่วยชะลอกระบวนการชรา และป้องกันโรคมะเร็งได้
ช่วยป้องกันและรักษาโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม

แนะนำ ให้รับประทานขนาด 60 มก.  3 แคปซูล  ต่อวัน

➢4. แบล็กโคฮอซ Black cohosh
เป็นหนึ่งในสมุนไพรยอดนิยม ที่ทดแทนการให้ฮอร์โมน
ในหญิงวัยหมดประจำเดือน
ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ
ช่วยกระตุ้นประจำเดือน
บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน

แนะนำ ให้รับประทาน 1 แคปซูล  ต่อวัน
ข้อควรระวัง ผู้ที่เข้ารับการรักษาแบบเคมีบำบัด ไม่แนะนำให้กิน

 ➢5. เซสต์เบอรี่ Chasteberry
ช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ อารมณ์แปรปรวน
ช่วยสร้างความสมดุลให้กับฮอร์โมน
ช่วยรักษาอาการท้องอืด 
ช่วยในการรักษาการมีบุตรยาก
ช่วยรักษาเนื้องอกประเภทไฟบรอยด์ได้ดี

แนะนำ ให้รับประทานขนาด 400 มก  1 แคปซูล  วันละ 3 เวลา

ลองหามาทานกันนะคะ เอาที่สบายใจคะ

ทำสบู่ได้ง่าย ๆ คุณก็ทำได้ เช่นกัน
อยากทำสบู่ได้ อยากทำสบู่เป็น 
อยากทำสบู่ใช้เองแต่ไม่มีพื้นฐานใด ๆ เลย
ครูดานิแนะนำคู่มือการทำสบู่
สูตรสร้างอาชีพ ทักมาได้นะคะ

Line : @127wsjci

หรือทางข้อความเพจ : สอนทำสบู่ เรียนทำสบู่ สอนออนไลน์ ครูดานิ
หรือเข้าไปเยี่ยมชมเวปไซด์ได้คะ

www.danidanisoap.com








วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2562

ผิวสวย ใส จากภายนอก คุณก็ทำเองได้




เราทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าผิวของคนเรา

แบ่งออกเป็น
1.ชั้นบนสุด เรียกว่า หนังกำพร้า
เป็นชั้นที่มองเห็นอยู่ด้านนอกสุด มีความบางมาก ทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวเราจากสารพิษ แบคทีเรีย
2.ชั้นกลาง เรียกว่า หนังแท้ เป็นชั้นผิวหนังที่มีความหนากว่าหนังกำพร้ามาก และมีความยืดหยุ่นมาก
3.ชั้นล่างสุด เรียกว่า ผิวหนังชั้นใต้ผิวหนัง หรือชั้นไขมัน

ผิวหนังจะมีกระบวนการผลัดเซลล์ผิว 28 วัน โดยเซลล์ผิวใหม่จะถูกสร้างขึ้นจากผิวชั้นใน และค่อยๆ ผลัดผิวที่ละชั้น ๆ ขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้า

วิธีการฟื้นฟูผิวให้สวยอย่างรวดเร็วจากภายนอก

วิธีที่ 1 แปรงผิวแบบแห้ง
วิธีการแปรง : การแปรงผิวแบบแห้งนั้น ควรแปรงทุกส่วนในร่างกายในทิศทางเข้าหาหัวใจ

โดยเริ่มจากแปรงผิวเบา ๆ เป็นวงกลม
สเต็ปที่ 1 เริ่มจากเท้าไล้ขึ้นมาจนถึงต้นขาด้านบน
สเต็ปที่ 2 เริ่มจากปลายนิ้ว (แขน) จนถึงหัวไหล่
สเต็ปที่ 3 บริเวณท้องให้แปรงทวนเข็มนาฬิกา
สเต็ปที่ 4 บริเวณหลังให้แปรงผิวเบา ๆ เป็นวงกลมจากช่วงบั้นเอวไล่ขึ้นไปจนถึงคอ
ครบ 4 สเต็ป ก็อาบน้ำตามปกติ 

➣ช่วยเรื่องอะไร : ช่วยฟื้นฟู และบำรุงผิวด้วยการ
กระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหรือตายให้หลุดออกไป พร้อมกำจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอื่น ๆ ช่วยลดเซลล์ลูไลต์ ช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และกระตุ่นระบบน้ำเหลืองและช่วยขจัดของเสียในร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นการนวดยกกระชับผ่อนคลายไปในตัวด้วย

➣เหมาะกับใคร :เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีปัญหาเรื่องผื่นแพ้ ผู้ที่ไม่มีสิว ไม่มีตุ่มคันตามตัวแล้ว

อุปกรณ์ที่ใช้ :ใช้แปรงขนแปรงธรรมชาติ
ทำเวลาไหนดี:ควรทำเป็นประจำทุกเช้าก่อนอาบน้ำ

วิธีที่ 2 ขัดผิวด้วยผ้าร้อน
➣ วิธีการขัดผิวด้วยผ้าร้อน :
-วางกะละมังหรือชามในอ่างล้างหนา ใส่น้ำอุ่นลงไป (น้ำพออุ่น ๆ ไม่ร้อนจัดเกินไป) หยดน้ำมันหอมระเหยลงไป 2-3 หยด คนให้เข้ากัน
-นำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น แล้วบิดให้หมาด ๆ เช็ดลำตัวเป็นส่วน ๆ ไล่จนไปครบทุกส่วน โดยหมั่นชุบผ้าลงในน้ำเพื่อให้ผ้าอุ่นอยู่เสมอ
-การเช็ดควรออกแรงเล็กน้อยให้ผิวเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ

➣ช่วยเรื่องอะไร : ช่วยกระตุ้น ต่อมน้ำเหลืองและระบบไหลเวียนเลือด ช่วยเปิดรูขุมขน ช่วยระบายของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงไขมันที่สะสมใต้ผิวหนัง ช่วยลดความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนและนอนหลับได้ลึกในตอนกลางคืน

➣เหมาะกับใคร : เหมาะกับผิวปกติ ไม่มีผืนแพ้หรือผืนคันใดๆ ทางผิวหนัง

➣อุปกรณ์ที่ใช้ :ใช้เพียงชามขนาดใหญ่หรือกะละมังขนาดเล็ก น้ำอุ่น และผ้าขนหนู อาจจะหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบลงไปในน้ำอุ่น

➣ทำเวลาไหนดี : ควรทำเป็นประจำก่อนหรือหลังอาบน้ำก็ได้ จะให้ดีที่สุดควรทำทั้งเช้าและเย็น

การฟื้นฟูผิวจากภายนอก เป็นวิธีง่าย ๆ
ที่ทำได้ทุกวัน ตอนอาบน้ำ
คุณก็ได้ผิวที่สวยใส มาครอบครองแล้วคะ

ลองทำกันดูนะคะ
สวยใส ไร้สิว ด้วยสูตรโฮมเมด สวยธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ทุกคนทำได้คะ

dani5642

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2562

รู้ยัง ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร - หายได้ถ้ารักษาอย่างต่อเนื่อง


                                
 ฝ้า (Melasma) 
ปัญหาหนักอก ที่ทุก ๆ คนต้องเจอ ไม่อยากเจอ ฝ้าก็มาทักทาย เมื่อถึงเวลา ส่วนใหญ่จะมาตรงโหนกแก้ม ใครโชคดีหน่อย ก็มาทั่วใบหน้ากันเลย 

➽สาเหตุของการเกิดฝ้า
ฝ้า เกิดจากเม็ดสีเมลามีน ทำงานมากขึ้น ทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอกัน 

➤สาเหตุหลัก ๆ เลยคือแสงแดด เมื่อได้รับแสงแดดมากขึ้น เม็ดสีเมลามีน ก็ผลิตออกมามากขึ้น

รังสีที่มีผลต่อการเกิดฝ้า คือ รังสี UVA ซึ่งมีคลื่นความที่ยาวกว่ารังสี UVB

➥ฝ้า ต่างจาก กระ เพราะฮอร์โมน 

กระ ส่วนใหญ่ เกิดจากแสงแดด ความร้อน และอายุ

➤ฝ้า  มีปัจจัยจากฮอร์โมน เข้ามาเกี่ยวมากอยู่ 
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว อย่างตั้งครรภ์ ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝ้าได้
การที่ฮอร์โมนลดลงอย่างรวดเร็วก็ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน เช่น เข้าสู่วัยทอง วัยหมดประจำเดือน

➤ฝ้าแบ่งออกเป็น  2 ประเภท  คือ
-แบบตี้น  จะอยู่ในระดับหนังกำพร้า ฝ้าที่เป็นจะออกสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นง่าย และเมื่อรักษาจะใช้เวลาไม่นานก็หาย
-แบบลึก  จะอยู่ลึกกว่าหนังกำพร้า  ฝ้าที่เป็นจะออกสีน้ำตาลอมฟ้า หรือน้ำตาลอมม่วง รักษายาก การทายาอาจจะแค่จางลงเท่านั้น

➤วิธีการรักษา
1. ป้องกันการเกิดฝ้า  หลีกเลี่ยงแสงแดด  ควรทาครีมกันแดดทุกวัน ไม่ว่าจะโดนแดดหรือไม่ และกันแดดที่ใช้ควรมีค่า SPF30 ขึ้นไป และต้องเป็นแบบ PA++++ ถึงจะช่วยปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

2. ควรทาครีมทาฝ้า ทำทรีตเมนต์  และรับประมาณอาหารเสริมที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ที่เป็นตัวช่วยทำให้ผิวแข็งแรง เพื่อเป็นการป้องไม่ให้ฝ้าขยายตัวใหญ่ขึ้น

3. ครีมทาฝ้าที่ใช้ควรเลือกที่มีส่วนผสมของ 
วิตามินซี / อัฟฟ่า อาร์บูติน / กรดโคจิก /สารสกัดหัวไชเท้า / สารสกัดมะหาด  



↬ได้แต่มอง ก็หมองกันต่อไปคะ
dani5642




วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2562

ครีมบำรุงผิวหน้า-สูตรลดฝ้า ที่ดีที่สุด



หน้าเป็นฝ้า   กระ   จุดด่างดำ   หน้าหมองคล้ำ   ริ้วรอย  
รูขุมขนกว้าง  เป็นปัญหาใหญ่ ที่ใคร ๆ ก็ต้องเจอ

ดานิ ก็หนีไม่พ้นปัญหานี้เหมือนกัน
เมื่ออายุมากขึ้น ฝ้า กระ จุดด่างดำ หน้าหมองคล้ำ ก็มาเยือน 

ใช้ครีมอะไร ๆ ที่เขาบอกว่าดี ฝ้าหายแน่นอน ลองมาหมดแล้ว 
หมดเงินไปก็เยอะ ก็ไม่เห็นว่าฝ้าจะจาง ลงเลย

จึงตัดสินใจศึกษาเรื่องการทำเครื่องสำอางใช้เอง  
ศึกษาจนเจอสารที่ช่วยเรื่องฝ้าอย่างได้ผล  
เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจธรรมชาติของฝ้ากันก่อนคะ
ฝ้ามีหลายชนิด  ฝ้าแดด  ฝ้ากรรมพันธ์ ฝ้าฮอร์โมน ฝ้าเลือด 
เราก็ต้องรู้ก่อนว่าเราเป็นฝ้าชนิดไหน จะได้รักษาได้ตรงจุด

สาเหตุของการเกิดฝ้าก็มี  
อายุ  / วัยทอง  / แสงแดด
ทานยาคุมกำเนิด 
ความเครียด 
การใช้เครื่องสำอางผิดประเภท 

ดังนั้นการรักษาฝ้าจะต้องใช้ส่วนผสมของสาร
ที่มีคุณสมบัติในการลดการก่อตัวของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) 
ในชั้นผิว และต้องช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นในเวลาเดียวกันด้วย

ครีมรักษาฝ้าที่ดี  ควรมีคุณสมบัติ
ที่มีส่วนช่วยในการลดเลือนรอยฝ้าให้จางลง 
พร้อมช่วยปรับสีผิวที่หมองคล้ำให้ดูขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น 
ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว 
ทำให้มีความเนียนนุ่ม กระชับ และสดชื่นอยู่ตลอดเวลา 
แถมเนื้อครีมก็สามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว 
ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะอีกด้วย

คุณสมบัติที่กล่าวมาทั้งหมด 
อยู่ในครีมบำรุงผิวหน้า - สูตรรักษาฝ้า 
เลือกใช้สารที่แก้ปัญหาฝ้าแบบตรงจุด
ไม่มีสารสเตียรอยด์ 100%

ผลจากการใช้ครีมบำรุงผิวหน้า-สูตรรักษาฝ้า  4 สัปดาห์
หน้าขาวกระจ่างใสขึ้น  รูขุมขนกระชับขึ้น
รอยฝ้า กระ จางลง  หน้าดูสดใส มีออร่าขึ้น
ผิวเรียบเนียนขึ้น   ริ้วรอยดูลดลง
หน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น   ดูหน้าเด็กลง 
จนมีคนทักว่า ใช่อะไรคะครู "หน้าขาวใสจังเลย"
ไม่ต้องเชื่อสิ่งที่ครูพูด จนกว่าจะได้ลอง

ครีมลดฝ้าที่ดีที่สุด คือครีมที่ใช้แล้วถูกกับผิวของเราที่สุด

>>ได้แต่มอง ก็หมองกันต่อไปคะ>>

line :dani5642

3 แนวทาง สำหรับผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางใช้เอง




3 แนวทางสำหรับผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางใช้เอง

เคยเจอปัญหาแบบนี้มัยคะ  
ใช้เครื่องสำอางชนิดไหน ๆ ก็ไม่ถูกกับผิวเรา 
ของถูกก็ใช้แล้ว ของแพง แบรนด์ดัง ๆ ก็ใช้แล้ว

ทำไม??? ทำไม??? 
สิวก็ยังขึ้น ฝ้าก็ยังไม่จาง
ผิวก็ยังแห้ง ริ้วรอยก็ยังมี
หน้าก็ยังไม่ขาว  ออร่าก็ยังไม่มา

ปัญหาพวกนี้จะหมดไป 

ถ้าเราทำเครื่องสำอางใช้เอง
ไม่ว่าจะเป็น น้ำตบ โทนเนอร์ เอสเซนส์ เซรั่ม ครีม โลชั้น ครีมแก้ฝ้า ครีมหน้าใส ครีมกันแดด 
เราทำเองได้หมด  


ส่วนมากเครื่องสำอางที่ขายทั่วไป 
ไม่ว่าจะถูกหรือแพง  ล้วนทำออกมาแบบกลาง ๆ
ใครใช้แล้วถูก ก็ดีไป ใครใช้แล้วแพ้ ก็แย่กันไป

3 แนวทาง สำหรับผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางใช้เอง

แนวทางที่  1  ต้องรักตัวเอง

         คุณสมบัติ แรกสำหรับผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางใช้เอง ต้องรักตัวเองให้มาก รักตัวเองให้เป็นมาอันดับแรกเลยคะ เพราะถ้าไม่รักตัวเอง จะไม่สรรหา สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง  
         คนรักตัวเอง จะต้องสรรหา สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง  เครื่องสำอางที่เราใช้ทุกวัน ในเมื่อรู้ว่าใช้แล้วมีปัญหา คนรักตัวเอง จะหยุดใช้ จะไม่เสียดายของที่ซื้อมา แล้วใช้ไม่หมด ต้องทิ้งไป  แต่จะสรรหาสิ่งที่ดีมาแทนของเก่า  จะต้องทำทุกวิถีทางให้เรา ดูดี ดูสวย ดูมีราคา หน้าไม่มีฝ้า ไม่มีกระ คนรักตัวเอง ต้องสวย ขาว มีออร่ามาแต่ไกล ใครเห็นต้องหันมามอง  
          คนรักตัวเอง จะพิถีพิถันในทุกอย่างที่ทำให้ตัวเองดูดี  ครีมที่ใช้อาจไม่ต้องแพง แต่ใช้แล้วผิวต้องชุ่มชื้น สิวไม่ขึ้น หน้าขาวขี้น กระชับขึ้น ริ้วรอยลดลง
ดูมีออร่า จนใครเห็นต้องทักว่า ใช้อะไรมา ดูดีจัง
        คนที่รักตัวเอง จะรู้ว่าผิวของเราเป็นผิวแบบไหน เครื่องสำอางแบบไหนที่เหมาะกับผิวของเรา
ผิวของเราต้องได้รับการบำรุงแบบไหน
          เห็นไหมคะ แค่เรารักตัวเอง เราก็สวยขึ้นได้



แนวทางที่ 2  ใส่ใจส่วนผสมเครื่องสำอาง


         คนที่รักตัวเอง จะซื้อเครื่องสำอางสักชิ้น จะต้องดูส่วนผสมในเครื่องสำอาง ชิ้นนั้นว่าเขาผสมอะไรบ้าง ต้องอ่านให้เป็นว่าสารตัวนี้เขียนก่อน หมายถึงอะไร สารตัวนี้เขียนทีหลังหมายถึงอะไร ตรงนี้เราสามารถพิจารณาได้ว่า เขาผสมสารใดมากสุด  ผสมสารใดน้อยสุด คร่าว ๆ ได้
        การที่เราใส่ใจส่วนผสมของเครื่องสำอาง ทำให้เราได้รู้คุณสมบัติของสารนั้น ว่าสารนั้นเหมาะกับผิวแบบไหน    ถ้าใส่สารนั้นลงไปเยอะ  จะเกิดผลอย่างไร  ถ้าใส่น้อยจะเป็นอย่างไร  
      บางครั้งเห็นที่ฉลากกล่อง เขียนส่วนผสมเยอะมาก ถ้าเรารู้ชื่อสาร รู้คุณสมบัติของสารนั้น เราก็สามารถรู้ได้ว่า จริง ๆ เครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ อาจจะมีแค่ตัวประสานเนื้อ น้ำมัน น้ำ หรือสารเพิ่มความหนืด สารให้ความชุ่มชื้น  สารสกัดนิดหน่อย  แต่ราคาแสนแพง 
      การที่เราใส่ใจว่าเครื่องสำอางที่เราใช้อยู่ใส่สารอะไรบ้าง ทำให้เราได้รู้ว่า สิ่งที่เราใช้อยู่ มันคู่ควรกับผิวเราหรือไม่  มีสารที่ทำอันตรายกับผิวของเราหรือเปล่า 
      

แนวทางที่  3    หาข้อมูลในการทำเครื่องสำอาง 
อยากทำเครื่องสำอางใช้เอง สิ่งที่ต้องรู้ เช่น

-ลักษณะผิวของเรา
-ผิวแบบไหน ใช้สารอะไรได้บ้าง ผิวแบบไหนไม่ควรใช้สารประเภทนี้ 
-อุปกรณ์ที่ใช้ทำควรเป็นแบบไหน แก้วใช้ได้ไหม พลาสติกใช้ได้ไหม
-เรียนรู้วิธีการอ่านฉลาก  อ่านปริมาณสาร
-เรียนรู้วิธีการผสมเครื่องสำอาง 
-รู้ขั้นตอนการผสมสารว่าสารตัวนี้ต้องผสมอย่างไร ต้องผสมในน้ำ หรือต้องผสมในน้ำมัน หรือต้องผสมในขั้นตอนสุดท้าย หรือตั้งผสมในขนาดที่อุณหภูมิ 40 องศา
-รู้คุณสมบัติของสาร  สารทุกตัวไม่จำเป็นต้องเป็นเคมีเสมอไป บางตัวเป็นออแกนิก บางตัวเป็นสารสกัด บางตัวเป็นสมุนไพร 
-รู้คุณสมบัติของสารสกัด วิตามิน สารกันเสีย ฯลฯ
สารพวกนี้มีคุณและโทษอย่างไร สามารถผสมกันได้หรือเปล่า
-รู้เรื่อง การจดแจ้ง การทำครีมออกมาสักตัว ไม่ว่าจะทำใช้เอง ทำขาย หรือทำแจก ต้องขอเลขจดแจ้งก่อนที่จะผลิตครีมออกมา


สำหรับผู้เริ่มต้นทำเครื่องสำอางใช้เอง ไม่ยากคะ
 แค่สนใจ  เรียนรู้ และลงมือทำ

คุณก็สามารถมีครีมดี ๆ  ที่เหมาะกับผิวของเราได้คะ


ไม่เริ่มวันนี้ แล้วจะเริ่มวันไหน


>>ได้แต่มอง ก็หมองกันต่อไปคะ>>


Line :dani5642


แจกสูตรเบสครีม สำหรับทำโลชั่น ครีมทาผิว

ครูดานิ เชื่อว่า มีหลายคนที่อยากทำครีมใช้เอง  แต่ติดที่ว่ายังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสาร   ตัวนี้เลยคะ  Cetyl Alcohol   ซิทิล แอลกอฮ...