เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรามีผิวแบบไหน ผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวมีอายุ แล้วผิวแบบไหนดีที่สุด และมีวิธีการดูแลผิวอย่างไร
#ผิวธรรมดา
ผิวธรรมดาเป็นสภาพผิวที่ดีที่สุดเนื่องจากผิวจะเนียน นุ่ม ยืดหยุ่น มีสุขภาพดี ฟื้นฟูได้เร็ว ผิวมีน้ำมันและความชื้นมาก เป็นลักษณะผิวที่มีสุขภาพดี มีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ด้วยค่า pH 5.5 ตามธรรมชาติ บริเวณชั้นบนสุดของผิวจะเสมือนเกราะคุ้มกันผิว ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ ป้องกันเชื้อโรค และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอางที่มีค่า pH 5.5 มีส่วนช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดอ่อน ๆของผิวช่วยเสริมสร้างความสมดุลที่ดีของไขมันและความชุ่มชื้นของผิวหนัง
#ผิวมัน
ผิวมันเกิดจากผิวผลิตไขมันที่บริเวณผิวหนังออกมามากเกินไป ผิวมันจึงมีสารคัดหลั่งที่เป็นไขมันจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวดูมัน รูขุมขนเปิดกว้าง และมีแนวโน้มจะเกิดรอยดำและสิว และผิวมันจะต้องทำความสะอาดที่หมดจดแต่อ่อนโยน ควรใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่สามารถลดรอยดำ และสิวได้ ส่วนครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากไม่เหมาะกับผิวประเภทนี้
#ผิวแห้ง
เป็นผิวที่แพ้ง่าย ลอกง่าย เป็นขุยง่าย มีอาการ คัน ตึง แดง ได้ง่าย ผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นมาก และยังต้องการส่วนผสมของน้ำมันจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เวลาที่ผิวประเภทนี้แห้งตึงจะเกิดการระคายเคืองผิว ผิวแห้งต้องการการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและการดูแลใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
#ผิวผสม
ผิวประเภทนี้ บริเวณใบหน้าเป็นเพียงบริเวณเดียวที่มีผิวผสม คือตรงแก้มผิวจะแห้ง ตรง "ทีโซน" ผิวจะมัน เช่น หน้าผาก จมูก คาง จะมีความมันมากกว่าปกติ ส่วนผิวบริเวณดวงตา และแก้วผิวจะแห้ง
#ผิวมีอายุ
ลักษณะผิวที่มีอายุ คือผิวที่มีริ้วรอย เกิดขึ้น เริ่มจากริ้วรอยตื้น ๆ จนถึงริ้วรอยลึกขึ้น เริ่มก่อตัวตั้งแต่ อายุ 25 ปี สังเกตุได้จากจุดต่าง ๆ เช่นบริเวณหางตา หรือที่เรียกกันว่ารอยตีนกา หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก บริเวณแก้ม อาจจะเกิดจากการแสดงอารมณ์ แสดงสีหน้าต่าง ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ริ้วรอยก็จะเริ่มเด่นชัดขึ้น
เราสามารถวิเคราะห์ผิวของเราได้แล้วนะคะ ว่าเรามีผิวแบบไหน และต้องดูแลผิวของเราอย่างไรให้ดูแลอ่อนเยาว์ตลอดเวลา
>ผู้หญิงอย่าหยุดสวย >เราจะแก่อย่างมีสไตล์
Line : dani5642
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น