วันเสาร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561

สารกันแดด - ชนิด Physical Sunscreen






วันนี้มาพูดถึงสารกันแดดชนิด
PHYSICAL SUNSCREEN

หรือเรียกอีกอย่างว่า สารกันแดดชนิดกายภาพ (Physical Sunscreen) มีความปลอดภัยสูงสุด และให้ความเสถียรสามารถทนแสง UV ได้ยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพง่าย แต่ให้ผิวสัมผัสที่ไม่โดดเด่นเท่ากับสารกันแดดชนิดเคมี หรือชนิดออร์แกนิค
(Chemical Suncreen / Organic Sunscreen)

มีอยู่ 2 ตัว คือ
ไททาเนียมไดออกไซด์ และ ซิงค์ออกไซด์

ตัวที่ 1 ไททาเนียมไดออกไซด์
ก็มีหลายเกรด หลายชนิด แตกต่างกันออกไป


คุณสมบัติ Titanium Dioxide:
-ป้องกันได้ทั้ง UVA ช่วงคลื่นสั้น / UVB ช่วงคลื่นสั้นถึงยาว
-SilkTouch™ ผงผ่านการเคลือบซิลิโคน ทำให้สามารถกระจายตัวได้ดีที่สุด และให้ความรู้สึกนุ่มลื่นบนผิว

-เป็น Physical Sun Screen ซึ่งปลอดภัยกว่า Chemical Sun Screen

มีอะไรบ้างมาดูกันคะ
1.Titanium Dioxide 15nm Liquid (ของเหลว) อนุภาคขนาด 15nm ขาววอกน้อยที่สุด เหมาะสำหรับใช้ในสูตรกันแดด ที่ต้องการไม่ให้เกิดความขาว เวลาทาบนผิว ใช้งานง่ายเนื่องจากอยู่ในรูปของเหลวประสานเข้ากับสูตรได้ทันที

2. Titanium Dioxide 30nm SilkTouch (ชนิดผง) อนุภาคขนาด 30nm ขาวเล็กน้อย(นวล) เหมาะสำหรับใช้ในสูตรกันแดด ที่ต้องการให้มีความขาวนวลเล็กน้อย ให้ผิวสัมผัสนุ่มลื่น

3. Titanium Dioxide 200nm SilkTouch (ชนิดผง) อนุภาคขนาด 200nm ขาววอกปานกลาง เหมาะสำหรับสูตร BB/CC ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพกันแดด และความขาววอกเคลือบผิว และเน้นผิวสัมผัสนุ่มลื่น

4.Titanium Dioxide 200nm EasyDidperse (ผง) อนุภาคขนาด 200nm ขาววอกปานกลาง เหมาะสำหรับสูตร BB/CC ที่ต้องการทั้งประสิทธิภาพกันแดด และความขาววอกเคลือบผิว และเน้นการเกาะผิวได้ดี

5. Titanium Dioxide Pigment (ผง) อนุภาคขนาด 200-500nm ขาววอกสูง เหมาะสำหรับทำหน้าที่เป็นสีขาว ในสูตรใดๆ

ตัวที่ 2 ซิงค์ ออกไซด์
มีหลายเกรด หลายชนิดให้เลือก

มีอะไรบ้างมาดูกันคะ
1. Zine Oxide ชนิดผงขนาด 200nm เคลือบซิลิโคน ทำให้สามารถกระจายตัวในสูตรกันแดดใดๆได้ง่าย ให้ความรู้สึกนุ่มบนผิว เกาะผิวได้ดี ให้ความขาวต่ำ

2. Zinc Oxide Micronized ชนิดผง ไม่ได้เคลือบ เหมาะสำหรับใช้ในสูตรเพื่อออกฤทธิ์ในด้านการฆ่าเชื้อ เช่น สูตรระงับกลิ่นกาย (deodorant) ไม่เหมาะสำหรับใช้ในครีมกันแดด ที่ต้องการการกระจายตัวสูงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการกันแดดที่ดี

3. Zinc Oxude ชนิดเหลว โดยขนาดอนุภาคของผง 35 นาโนเมตร พร้อมผสมในสูตรครีมกันแดดใดๆ ใช้งานง่าย ให้ความรู้สึกนุ่มบนผิว เกาะผิวได้ดี ไม่ทำให้เกิดความขาวบนผิว

4. Zinc Oxide Neutral (pH ไม่เกิน 7.5) เป็น Zinc Oxide ที่มี pH เป็นกลาง ไม่เป็นด่าง ทำให้อ่อนโยนต่อผิว ไม่กระทบต่อค่า pH ของสูตร เหมาะสำหรับใช้ใน ทั้งสูตรกันแดด และสูตรอื่นๆที่ใช้ Zinc Oxide เป็น Active Ingredient เช่น สูตรรักษา/ป้องกัน Diaper Rash ของเด็ก

5. Zince Oxide Neutral Coated (pH ไม่เกิน 7.5, เคลือบด้วย Dimethicone) เป็น Zinc Oxide ที่มี pH เป็นกลาง ไม่เป็นด่าง ทำให้อ่อนโยนต่อผิว ไม่กระทบต่อค่า pH ของสูตร และผ่านการเคลือบด้วย Dimethicone เพื่อให้สามารถกระจายตัวในสูตรได้ง่าย และติดผิวได้ดี เหมาะสำหรับสูตรกันแดด


ข้อดีของ Physical Sunscreen:
โอกาสอุดตันรูขุมขนน้อยกว่า Chemical Sun Screen และมีความปลอดภัยสูงกว่า Chemical Sun Screen เนื่องจากไม่มีส่วนผสมใดที่จะซึมสู่ผิวได้ Physical Sunscreen ทำหน้าที่เพียงแค่ปกคลุมผิวไว้ไม่ให้ UVA/UVB ตกกระทบผิวได้โดยตรง

ข้อเสียของ Physical Sunscreen:
เนื่องจากเป็นผงที่ทำหน้าที่ปกปิดผิว ไม่ให้แสง UVA/UVB สามารถตกกระทบบนผิวได้ง่าย จึงมักทำให้ผิววาวขึ้น หรือวอกขึ้น เมื่อใช้ โดยขนาดอนุภาคที่เล็ก (nano particle) ช่วยลดการวอก/วาวนี้ แต่ก็ยังสู้ Chemical Sun Screen ไม่ได้ ที่ไม่ก่อให้เกิดความวอก/วาว

ความแตกต่างระหว่าง
Titanium Dioxide และ Zinc Oxide:

ส่วนผสมทั้งสองตัว ทำหน้าที่ป้องกันแสง UV
ในช่วงความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน โดย

Titanium Dioxide สามารถป้องกัน UVA ช่วงคลื่นสั้น และ UVB ช่วงคลื่นทั้งสั้นและยาว

ในขณะที่ Zinc Oxide สามารถป้องกัน UVA ช่วงคลื่นยาวได้ดี

ในการผสมสูตรครีมกันแดด จึงควรใช้ส่วนผสมทั้งสองตัว เนื่องจากจะสามารถครอบคลุม UVA/UVB ได้ทุกความยาวคลื่น อย่างสมบูรณ์

>>เครื่องสำอางคุณก็ทำเองได้
by.ดานิ
Line : dani5642

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

มีผิวอย่างไรก็สวยได้


                           
                                          

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า เรามีผิวแบบไหน  ผิวธรรมดา  ผิวแห้ง   ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวมีอายุ  แล้วผิวแบบไหนดีที่สุด และมีวิธีการดูแลผิวอย่างไร  

#ผิวธรรมดา
       ผิวธรรมดาเป็นสภาพผิวที่ดีที่สุดเนื่องจากผิวจะเนียน นุ่ม ยืดหยุ่น มีสุขภาพดี ฟื้นฟูได้เร็ว ผิวมีน้ำมันและความชื้นมาก เป็นลักษณะผิวที่มีสุขภาพดี มีสภาพเป็นกรดอ่อน ๆ ด้วยค่า pH  5.5 ตามธรรมชาติ บริเวณชั้นบนสุดของผิวจะเสมือนเกราะคุ้มกันผิว ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ ป้องกันเชื้อโรค และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม  ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอางที่มีค่า pH 5.5 มีส่วนช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดอ่อน ๆของผิวช่วยเสริมสร้างความสมดุลที่ดีของไขมันและความชุ่มชื้นของผิวหนัง

#ผิวมัน
       ผิวมันเกิดจากผิวผลิตไขมันที่บริเวณผิวหนังออกมามากเกินไป ผิวมันจึงมีสารคัดหลั่งที่เป็นไขมันจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวดูมัน รูขุมขนเปิดกว้าง และมีแนวโน้มจะเกิดรอยดำและสิว  และผิวมันจะต้องทำความสะอาดที่หมดจดแต่อ่อนโยน  ควรใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่สามารถลดรอยดำ และสิวได้  ส่วนครีมที่มีส่วนผสมของน้ำมันมากไม่เหมาะกับผิวประเภทนี้

#ผิวแห้ง
       เป็นผิวที่แพ้ง่าย ลอกง่าย เป็นขุยง่าย มีอาการ คัน ตึง แดง ได้ง่าย  ผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นมาก และยังต้องการส่วนผสมของน้ำมันจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เวลาที่ผิวประเภทนี้แห้งตึงจะเกิดการระคายเคืองผิว ผิวแห้งต้องการการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและการดูแลใส่ใจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ

#ผิวผสม
       ผิวประเภทนี้ บริเวณใบหน้าเป็นเพียงบริเวณเดียวที่มีผิวผสม คือตรงแก้มผิวจะแห้ง ตรง "ทีโซน" ผิวจะมัน เช่น หน้าผาก  จมูก  คาง จะมีความมันมากกว่าปกติ ส่วนผิวบริเวณดวงตา และแก้วผิวจะแห้ง

#ผิวมีอายุ
       ลักษณะผิวที่มีอายุ คือผิวที่มีริ้วรอย เกิดขึ้น เริ่มจากริ้วรอยตื้น ๆ จนถึงริ้วรอยลึกขึ้น  เริ่มก่อตัวตั้งแต่ อายุ 25 ปี สังเกตุได้จากจุดต่าง ๆ เช่นบริเวณหางตา  หรือที่เรียกกันว่ารอยตีนกา หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผาก บริเวณแก้ม อาจจะเกิดจากการแสดงอารมณ์ แสดงสีหน้าต่าง ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ริ้วรอยก็จะเริ่มเด่นชัดขึ้น 
      

เราสามารถวิเคราะห์ผิวของเราได้แล้วนะคะ ว่าเรามีผิวแบบไหน และต้องดูแลผิวของเราอย่างไรให้ดูแลอ่อนเยาว์ตลอดเวลา

>ผู้หญิงอย่าหยุดสวย  >เราจะแก่อย่างมีสไตล์

Line : dani5642












อุปกรณ์ทำเครื่องสำอาง -หาได้ง่าย ๆ


   อุปกรณ์ที่จำเป็นในการผสมเครื่องสำอาง
      แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำเครื่องสำอางก็คือความสะอาดนั้นเอง เพราะเชื้อโรคเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถทำให้คุณภาพของเครื่องสำอางเสียหายไปได้อย่างน่าเสียดาย ดังนั้นในการผสมเครื่องสำอางทุกครั้งคุณต้องทำการนึ่งอุปกรณ์ที่จะต้องสัมผัสส่วนผสมเพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อน หรืออาจจะฉีดพ่นแอลกอฮอล์ก่อนทุกครั้งก่อนที่จะทำการผสมเครื่องสำอาง

      มาดูกันเลยคะอุปกรณ์พื้นฐานในการทำเครื่องสำอางมีอะไรบ้าง หาได้ไม่ยากเลยคะ

                       
                                                     

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หม้อ 2 ชั้น

1. หม้อสองชั้น  (Double Boiler)

      เป็นอุปกรณ์หลักที่ต้องใช้ในการทำ เครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นครีม เซรั่ม โลชั่น  
วิธีการใช้คือ  ให้นำหม้อใบแรกตั้งบนเตา แล้วเติมน้ำลงไปครึ่งหม้อ เมื่อน้ำเดือด จึงวางหม้ออีกใบที่ใส่ส่วนผสมที่ต้องการละลายลงบนปากหม้อโดยก้นหม้อนั้นจะต้องไม่แนะน้ำที่อยู่ในหม้อใบล่าง หลักการทำงานของมันคือการใช้ไอน้ำที่ได้จากการต้มน้ำในหม้อใบล่างเพื่อที่จะละลายส่วนผสมที่อยู่ในหม้อข้างบน  ดังนั้นความร้อนที่ได้จากหม้อสองชั้นจะเป็นความร้อนต่ำที่ไม่ทำให้ส่วนผสมไหม้เสียก่อน

  


2.เครื่องปั่นมือถือ (Stick Blender)

        ใช่สำหรับปั่นส่วนผสมต่าง ๆ ให้ละเอียด และผสมส่วนต่าง ๆ ให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว

3.เครื่องตีฟองนม
                           à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เครื่องตีฟองนม

   ใช้ในกรณีที่ผสมเครื่องสำอางในปริมาณน้อย ๆ จนไม่สามารถที่จะใช้เครื่องปั่นได้  ก็สามารถใช้เครื่องตีฟองนมแทนได้

4.เครื่องชั่งดิจิตอล

                                                             à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ เครื่องชั่งดิจิตอล0.01 กรัม


        เครื่องชั่งสำคัญมากในการทผสมเครื่องสำอางใช้เอง การชั่งสารหรือส่วนผสมต่าง ๆ ต้องได้ปริมาณที่แม่นยำ แนะนำให้ใช้เครื่องชั่งดิจิตอลที่สามารถแสดงจุดทศนิยมได้อย่างน้อย 2 หลัก เช่น 0.01 กรัม

5.ที่วัดอุณหภูมิ

                              à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ ที่วัดอุณหภูมิดิจิตอล

        ในการทำเครื่องสำอางใช้เองที่วัดอุณหภูมิมีความสำคัญมาก แนะนำที่วัดอุณหภูมิแบบดิจิตอล จำมีความแม่นยำมากกว่า แต่ราคาก็สูงตามมา

6. บิกเกอร์
                          à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ บีกเกอร์

        เป็นแก้วที่มีลักษณะที่สามารถทนความร้อนได้สูง เหมาะสำหรับใช้ผสมสารต่าง ๆ ให้เข้ากัน บีกเกอร์มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ 50 มิลลิกรัม ไปจนถึง 5 ลิตร ขอแนะนำให้มีบิกเกอร์ขนาด 100 มิลลิลิตร ติดไว้อย่างน้อย 3 ใบ เพราะสูตรบางสูตรอาจจะต้องมีการผสมส่วนผสมถึง 3-4 ส่วนด้วยกัน

7.แท่งแก้วคนสาร
                            à¸œà¸¥à¸à¸²à¸£à¸„้นหารูปภาพสำหรับ แท่งแก้วคนสาร

          บางครั้งเราจำเป็นต้องใช้การคนเบา ๆ เพื่อผสมสารต่าง ๆ เข้าด้วยกัน แท่งแก้วคนสารจึงจำเป็นเช่นเดียวกับบิกเกอร์ แท่งแก้วคนสารควรมีคุณสมบัติในการทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับงานปรุงเครื่องสำอาง

ความสะอาดสำคัญที่สุดในการผสมเครื่องสำอางใช้เองนะคะ

แล้วคุณจะติดใจที่ทำเครื่องสำอางใช้เองได้

>เครื่องสำอางคุณก็ทำเองได้   By.ดานิ



ครีมกันแดด - ไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่อุดตัน

.

ครีมกันแดด

ครีมกันแดด มีมากมายหลายยี่ห้อในท้องตลาด แต่กว่าที่เราจะเจอครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวของเรา ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เหมือนกัน

ต้องลองซื้อมาใช้ ว่ายี่ห้อนี้ใช้แล้ววอกมัย ใช้แล้วสิวขึ้นมัย ใช้แล้วหน้าก็มันเยิ้ม หรือใช้แล้วเหงื่อออกกันแดดที่ทาก็หลุด สารพัดที่จะเจอ

ไม่ใช้เรื่องง่ายเลยใช้มัยคะ กว่าจะเจอครีมกันแดดที่เป็นของเรา ที่เหมาะกับผิวเรา ที่ใช้แล้วสิวไม่ขึ้น ใช้แล้วหน้าไม่วอก ใช้แล้วผิวเรียบเนียน หน้าขาวกระจ่างใส

ดานิ เคยใช้ครีมกันแดด มามากมายหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะราคาถูกสุด หรือราคาแพงสุด ยี่ห้อดังแสนดัง ดารา ไฮโซ เขาใช้กัน

อย่างแรกที่เจอ สิวขึ้นเป็นอันดับแรก ใช้ไปสักพัก หน้ามันเยิ้ม และที่สำคัญมีความรู้สึกฝ้าเริ่มขึ้น

จึงได้เริ่มศึกษาเรื่องสารที่ใช้สำหรับทำกันแดด
ได้รู้ว่าครีมกันแดดแบ่งออกเป็น


1. Chemical Sunscreen
          เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารเคมีทำหน้าที่ปกป้องแสงแดด โดยการดูดซับรังสีแสงแดดเข้าไว้ในผิว ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพนั่นคือสาเหตุที่เราจึงต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง 

การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีปริมาณมากอาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังโดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่าย

2. Physical Sunscreen
        เป็นครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของสารที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนัง
ซึ่งสารในกลุ่มนี้จะมีผลระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่าสารในกลุ่มแรก
แต่มีข้อด้อยคือ ครีมกันแดดประเภทนี้ไม่สามารถให้ SPF ที่สูงๆ ได้ และเมื่อทาบนผิวหนังแล้ว
หน้าจะดูขาวมาก เนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบจึงมีการดูดซึมสู่ผิวน้อย

3. แบบผสม Chemical-Physical Sunscreen
        เป็นการเสริมข้อดี ลดข้อด้อยในแต่ละส่วน นั่นคือ  ลดการระคายเคืองต่อผิวหนังจากสารประเภทสารเคมีและลดความขาวเมื่อทาครีมและเสริมประสิทธิภาพ ในการป้องกันแสงแดดร่วมกัน

ส่วนผสมในครีมกันแดด สามารถแบ่งตามสารออกฤทธิ์ได้ดังนี้
-สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ป้องกัน UVA
ได้แก่ Oxybenzone, Sulisobenzone, Dioxybenzone, Avobenzone, Merxoryl sx

-สารออกฤทธิ์กลุ่มสารเคมีที่ปัองกัน UVB
ได้แก่ Aminobenzoic acid (PABA), Homosalate, Cinoxate, Octyl methoxycinnamate, Octyl salicylate, Padimate O, Phenylbenzimidazole sulfonic acid, Trolamine salicylate, Methyl anthralinate

 -สารออกฤทธิ์กลุ่ม Physical เป็นสารกันแดดที่สะท้อนแสงที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB ได้แก่ Titanium dioxide, Zinc Oxide

 อยากจะบอกว่า ดานิ ทำครีมกันแดดใช้เองมาหลายปีแล้วคะ ปัญหาสิวขึ้น หน้ามันเยิ้ม หน้าวอก หายไปจากชีวิตเลยคะ และที่สำคัญสุดๆ เราสามารถเลือกได้ตัวเองว่าเราจะใส่สารกันแดดตัวไหนลงไปในสูตรของเรา


ครีมกันแดดที่ยิ่งใช้ หน้ายิ่ง เรียบเนียน ผิวขาวกระจ่างใส ไม่มัน ไม่เยิ้ม ไม่อุดตันสิว มีอยู่จริงๆ คะ

เนื้อครีมเป็น เนื้อใยไหม เมื่อทาครีมกันแดดลงไป ครีมจะซึมเข้าสู่ผิวของเราอย่างรวดเร็ว หน้าไม่วอกขาว แบบหน้าลอยมาแต่ไกล ยิ่งใช้ยิ่งหลงรัก จนไม่เปลี่ยนไปใช้ครีมกันแดดยี่ไหนอีกเลย

ครีมกันแดด ยี่ห้อ ดานิ ดานิ สิคะ ทาแล้วสิวไม่ขึ้น หน้าไม่มันเยิ้ม ที่สำคัญคุมมันได้ตลอดทั้งวันไม่ต้องทาซ้ำหลาย ๆ รอบ ไม่ต้องลงแป้งทั้งวันเหมือนเดิมอีกแล้ว 


>>เครื่องสำอางคุณก็ทำเองได้คะ
ดานิ การันตี!!!!!!

Line: dani5642

แจกสูตรเบสครีม สำหรับทำโลชั่น ครีมทาผิว

ครูดานิ เชื่อว่า มีหลายคนที่อยากทำครีมใช้เอง  แต่ติดที่ว่ายังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสาร   ตัวนี้เลยคะ  Cetyl Alcohol   ซิทิล แอลกอฮ...