วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผิวกระจ่างใสด้วย Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)



Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)


Azelaic Acid ชนิดละลายน้ำได้ (Liquid Azelaic™) ให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยดำ ลดความมันบนผิว ควบคุมการสร้างน้ำมันของรูขุมขน ลดสิวอุดตัน

Azelaic Acid เป็นสารหลักที่ใช้ใน Skinoren Cream ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปรับให้ผิวกระจ่างใส

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ whitening ให้ผิวกระจ่างใส หรือลดหน้ามัน/ลดสิวอุดตัน อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C มีค่า pH ระหว่าง 5-11
อัตราการใช้: 5-10% (แนะนำ 10% สำหรับ whitening ให้ผิวกระจ่างใส รักษาฝ้า และลดความมันบนใบหน้า)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลว สีใสหรือสีเหลืองอ่อน pH ประมาณ 7-8
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น  ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน (การเก็บในตู้เย็นนานๆ อาจมีตะกอนเกิดขึ้น ให้ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 6-12ชม. ก่อนการใช้งาน ตะกอนจะหายไป)

INCI Name: Potassium azeloyl diglycinate

คอร์ส Face Care ทำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าใช้เอง
แบบง่าย ๆ คุณก็ทำเองได้
สนใจทักมาเลยคะ
โทร.062-594-5642
Line:dani5642

วันอังคารที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2560

สูตรโทนเนอร์ดอกส้ม


เรามาทำโทนเนอร์ใช้เองกันดีกว่านะคะ
เครื่องสำอาง ทำง่าย ๆ คุณก็ทำเองได้  ที่สำคัญประหยัดด้วยคะ

โทนเนอร์ดอกส้ม

ส่วนผสม

น้ำดอกส้ม  75 กรัม
แอปเปิ้ล ไซเดอร์  20 กรัม (ไม่ใส่ก็ได้)
วิสฮาเซล  80  กรัม
สารสกัดรากโสม  10  กรัม
สารสกัดดอก  calendula
สารสกัดผลทับทิม

ขั้นตอนการทำ

ผสมส่วนผสมทั้งหมดลงในบรรจุภัฑณ์ เขย่าให้เข้ากัน

วิธีใช้

ใช้หลังล้างหน้าตอนเย็นเพื่อให้ความชุ่มชื้นและปรับสภาพผิว

เก็บรักษา  เก็บได้นาน 1 ปี


สารให้ความขาวกระจ่างใส - Azelaic Acid




Azelaic Acid (Liquid Azelaic™)


ชนิดละลายน้ำได้ (Liquid Azelaic™) ให้ผิวกระจ่างใส รอยดำ ลดความมันบนผิว ควบคุมการสร้างน้ำมันของรูขุมขน ลดสิวอุดตัน

Azelaic Acid เป็นสารหลักที่ใช้ใน Skinoren Cream ซึ่งมีประสิทธิภาพในการปรับให้ผิวกระจ่างใส

การใช้: สำหรับผลิตภัณฑ์ whitening ให้ผิวกระจ่างใส หรือลดหน้ามัน/ลดสิวอุดตัน อยู่ในรูปของเจล เซรั่ม โลชั่น หรือ ครีม
วิธีการผสม: ผสมในขั้นตอนสุดท้าย โดยอุณหภูมิของเครื่องสำอางค์ต้องต่ำกว่า 40°C มีค่า pH ระหว่าง 5-11
อัตราการใช้: 5-10% (แนะนำ 10% สำหรับ whitening ให้ผิวกระจ่างใส รักษาฝ้า และลดความมันบนใบหน้า)
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ของเหลว สีใสหรือสีเหลืองอ่อน pH ประมาณ 7-8
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น  ห้ามโดนแสงแดด ความร้อน ซีลฝาให้สนิท มีอายุอย่างต่ำ 24เดือน (การเก็บในตู้เย็นนานๆ อาจมีตะกอนเกิดขึ้น ให้ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง 6-12ชม. ก่อนการใช้งาน ตะกอนจะหายไป)

INCI Name: Potassium azeloyl diglycinate
Preservative-Free

สารให้ความขาว - Perfect-C™



Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)



วิตามินซี ชนิดละลายในน้ำมัน เป็นชนิดเดียวที่มีประสิทธิภาพเทียบเทียบ Ascorbic Acid (วิตามินซี ธรรมชาติ) ในขณะที่มีความเสถียรที่สมบูรณ์ โดยไม่เสื่อมคุณภาพเมื่ออยู่ในสูตรครีม มีอายุอย่างน้อย 24เดือน โดยที่ยังมีประสิทธิภาพสูงจนครบเวลา

Perfect-C ยังมีประสิทธิภาพในการดูดซึมสู่ผิวได้มากกว่า Ascorbic Acid (superior percutaneous absorption) เนื่องจากอยู่ในรูปน้ำมัน จึงสามารถซึมสู่ผิวชั้นในซึ่งมีลักษณะเป็นไขมันได้มากกว่าชนิดอื่นๆ

Perfect-C™ ได้รับการอนุญาติเป็น quasi-drug (ผลิตภัณฑ์เทียบเท่ายา) ในประเทศญี่ปุ่นเมื่อใช้ที่ 3% และได้รับการอนุญาติเป็น functional ingredient สำหรับ skin whitening (ผลิตภัณฑ์ที่มีผลชัดเจน สำหรับผิวกระจ่างใส) ในประเทศเกาหลี เมื่อใช้ที่ 2%

สรุปประสิทธิภาพของ Perfect-C™
-ดูดซึมได้ดีกว่า Vitamin C ชนิดอื่นๆ
-Whitening ให้ผิวกระจ่างใส ตั้งแต่ความเข้มข้น 2% ขึ้นไป
-ลดความเสียหายของ DNA ซึ่งถูกแสง UV ทำลาย
-Anti-oxidant ต้านอนุมูลอิสระ
-กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนของผิว ตามกระบวนการธรรมชาติ
-ทนความร้อนได้ดี มีความเสถียรสูง (ในขั้นตอนการผสมสูตร สามารถใช้ความร้อนได้ในระยะสั้น)

ข้อกำหนดการผสมในสูตร
-หากมีส่วนของน้ำในสูตร ควรเติม Disodium EDTA 0.2%
-pH ของสูตรต้องอยู่ในระดับไม่เกิน 6.0
-ห้ามใช้ร่วมกับ Vitamin B3, Zinc PCA ในสูตร

การใช้: ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ Whitening, Anti-aging ทุกชนิด

วิธีการผสม: ผสมในส่วนของน้ำมัน (oil-phase) หรือใน cream maker  โดย pH ของสูตรต้องอยู่ในช่วง 3.5-6.0 ควรมี Disodium EDTA อยู่ในสูตร 0.2% เสมอ หากมีน้ำเป็นส่วนผสมในสูตร เพื่อช่วยจับประจุที่อาจทำลายคุณภาพของ Vitamin C ได้

อัตราการใช้: 1-10% แนะนำ 5% การใช้มากกว่า 10% ไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มสูงขึ้น

ลักษณะผลิตภัณฑ์: น้ำมันสีใส-เหลืองอ่อน

การละลาย: สามารถละลายในน้ำมัน

การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 5°C หลีกเลี่ยงแสง มีอายุอย่างต่ำ 2ปี

INCI NameAscorbyl Tetraisopalmitate หรือ Tetrahexyldecyl Ascorbate

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Perfect-C




สูตรคลีนซิ่งออยส์ - คุณก็ทำเองได้ง่าย ๆ


เครื่องสำอาง ทำง่าย ๆ คุณก็ทำเองได้

สวยใสไร้สิว ด้วยสูตรโฮมเมด สวยธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี

การปรุงเครื่องสำอาง เพื่อบำรุงผิว ไม่ใช่เรื่องยาก อะไร


สูตรการทำเครื่องบำรุงผิวจากธรรมชาติ มีมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น คลีนเซอร์  โทนเนอร์  มอยซ์เจอร์ไรซ์เซอร์ โลชั่น 

การทำเครื่องบำรุงผิวเองได้ เป็นเรื่องที่สนุก และประหยัดเงินมากมาย

เพราะเราสามารถหาส่วนผสมได้ง่าย ๆ แต่สรรพคุณเยี่ยมยอด 

แถมไม่มีสารเคมีด้วยคะ  เริ่มกันเลยนะคะ

สูตรคลีนซิ่งออยส์สำหรับบำรุงผิว

ส่วนผสม

น้ำมันละหุ่ง  30 กรัม

น้ำมันเมล็ดองุ่น  15 กรัม

น้ำมันจมูกข้าว 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอมระเหย geranimu  5 หยด

ขั้นตอนการทำ

ผสมน้ำมันทั้งหมดเข้าด้วยกัน บรรจุลงในขวดแก้วทึบแสง 
ปิดฝา เขย่าน้ำมันให้เข้ากัน 

วิธีใช้

เทน้ำมันลงบนปลายนิ้ว นวดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าและรอบดวงตา 

การนวดควรนวดตามแนวรูขุมขน เพื่อล้างสิ่งสกปรกทุกส่วนออกไป

ล้างออกด้วยน้ำอุ่น หากไม่เคยชินกับ ความรู้สึกมันเล็กน้อย

บนใบหน้า คุณสามารถล้างหน้าอีกทีด้วยโฟมล้างหน้าได้อีกครั้ง

การเก็บรักษา  เก็บในขวดแก้วทึบแสงได้นาน 18 เดือน


วิตามินซี - ใช้อย่างไรให้ได้ผลสูงสุด



Ethyl Ascorbic Acid


วิตามินซี อนุพันธ์ ชนิด Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid) ที่มีฤทธิ์เหมือน Vitamin C ธรรมชาติ (L-Ascorbic Acid) แต่สามารถละลายในน้ำได้โดยตรง มีความเสถียรสูง สามารถทนอุณหภูมิสูงได้ดี สามารถใช้ได้ในทุกสูตรเครื่องสำอาง โดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาความเสถียร

ารใช้: ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์ Whitening, Anti-aging ทุกชนิด
วิธีการผสม: ผสมในส่วนของน้ำ (water-phase) โดย pH ของสูตรต้องอยู่ในช่วง 3.5-6.0 ควรมี Disodium EDTA อยู่ในสูตร 0.2% เสมอ หากมีน้ำเป็นส่วนผสมในสูตร เพื่อช่วยจับประจุที่อาจทำลายคุณภาพของ Vitamin C ได้ และห้ามมี Vitamin B3, Zinc PCA ในสูตร
อัตราการใช้: 1-5% แนะนำ 3%
ลักษณะผลิตภัณฑ์: ผงสีขาว-สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นเฉพาะ มี pH ในช่วง 3.00-4.50 (ที่ความเข้มข้น 3% ในน้ำ)
การละลาย: สามารถละลายในน้ำ
การเก็บรักษา: หากต้องการเก็บในระยะยาว เก็บในตู้เย็น อุณหภูมิ 5°C หลีกเลี่ยงแสง มีอายุอย่างต่ำ 2ปี

INCI NameEthyl Ascorbic Acid

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Ethyl Ascorbic Acid

ทำเครื่องสำอาง คุณก็ทำเองได้
สนใจทักมาคะ
Line :dani5642


วันจันทร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2560

ผิวขาวด้วย Alpha Arbutin (อัลฟา อาร์บูติน)

Alpha Arbutin (อัลฟา อาร์บูติน)


    อัลฟาอาร์บูติน เป็นสารสังเคราะห์ ที่สามารถละลายน้ำได้ 
ทำหน้าที่ในการปรับผิวให้ขาว และทำให้สีผิวมีโทนเดียวกัน 
โดยเหมาะสำหรับผิวทุกประเภท มีความปลอดภัยสูง 
ไม่มีผลข้างเคียงเหมือนสารไฮโดรคิวโนน (Hydroquinone) 
ซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า แต่ราคาสูงกว่าไฮโดรคิวโนนมาก
จึงไม่ค่อยนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย 

โดยอัลฟาอาร์บูตินสามารถลดการสร้างเม็ดสีเมลานินที่เซลล์ผิวหนังได้ด้วยการไปยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่สำคัญที่สุดและมีบทบาทมากที่สุดในการสังเคราะห์เมลานิน 
เพราะมีผลต่อหลายๆ pathway ในกระบวนกาสร้างเมลานิน 
โดยทำหน้าที่เปลี่ยนสารตั้งต้นไทโรซีน (tyrosine) ไปเป็นสาร DOPA และ DOPA quinine เมื่อกระบวนการสร้างเมลานินเสร็จสิ้นจะถูกส่งผ่านไปยังเซลล์ keratinocytes ที่อยู่รอบๆ 
จากนั้นเซลล์ keratinocytes จะเคลื่อนสู่ผิวชั้นบนของหนังกำพร้า ทำให้ผิวมีสีที่เข้มมากกว่าปกติ ดังนั้นถ้าเอนไซม์นี้ทำงานมากเกินไป จะทำให้สร้างเม็ดสีเมลานินได้มากขึ้น

INCI NAME : Alpha-arbutin

วิธีการผสม : ผสมในขั้นตอนสุดท้ายของวิธีการทำ ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส pH 3.5-6.6
    
อัตราการใช้ : 0.2-2% (ห้ามใช้เกิน 2%) 
    
ลักษณะผลิตภัณฑ์ : ผงสีขาวบริสุทธิ์
    
การละลาย : ละลายในน้ำ
    
การเก็บรักษา : เก็บในอุณหภูมิห้อง ห้ามโดนแสงแดดและความร้อน ปิดฝาให้สนิท

วิธีการทำน้ำดอกกุหลาบ



น้ำกุหลาบ คือ น้ำสะอาดที่เจือด้วยกลิ่นของดอกกุหลาบ สามารถทำได้โดยนำกลีบกุหลาบไปแช่ในน้ำ น้ำมันหอมระเหยที่อยู่ในกลีบกุหลาบ ก็จะออกมาแขวนลอยอยู่ในน้ำ จึงทำให้เกิดกลิ่นขึ้นมา เราสามารถประยุกต์นำน้ำกุหลาบมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมากมาย


ประโยชน์ของน้ำกุหลาบ

  • ใช้ประกอบอาหาร ใช้เป็นส่วนผสมในขนมต่าง ๆ
  • แต่งกลิ่นและสีให้กับนม
  • ใช้ผสมในเครื่องสำอางต่าง ๆ เช่น น้ำหอม และครีมต่าง ๆ
  • ในตำราอายุรเวชของอินเดียโบราณ มีการใช้น้ำกุหลาบหยอดทำความสะอาดดวงตา
  • มีความเชื้อว่าน้ำกุหลาบสามารถช่วยรักษาสิว และช่วยคืนสมดุลให้กับผิวหนัง
  • น้ำกุหลาบมีสรรพคุณช่วยยับยั้งเชื้อโรค แก้อักเสบ



วิธีเตรียมน้ำกุหลาบ

คุณสามารถเตรียมน้ำกุหลาบได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้

วิธีเตรียน้ำกุหลาบ โดยใช้กลีบกุหลาบแห้ง (dried petals)

  1. ล้างกลีบกุหลาบให้สะอาด แล้วนำไปตากจนแห้ง
  2. นำกลีบกุหลาบที่แห้งแล้ว ใส่ในโหลแก้วที่มีฝาปิด แล้วเติมน้ำร้อนจัดลงไป
  3. ทิ้งไว้ให้เย็น 10 ถึง 15 นาที แล้วกรองเอากลีบกุหลาบออก
  4. เก็บน้ำกุหลาบที่ได้ไว้ในตู้เย็น ควรใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์


วิธีเตรียมน้ำกุหลาบ โดยใช้กลีบกุหลาบสด (fresh petals)

  1. ใช้ดอกกุหลาบประมาณ 2 ดอก เด็ดเอาแต่กลีบ ล้างให้สะอาด
  2. นำกลีบกุหลาบสดใส่ในหม้อขนาดเล็ก เติมน้ำเล็กน้อยให้พอท่วมกลีบกุหลาบ (ระวังอย่าใส่น้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้กลิ่นของน้ำกุหลาบจางได้)
  3. อาจเติมวอดก้าเล็กน้อย จะช่วยทำให้น้ำกุหลาบเก็บได้นานมากขึ้น
  4. ปิดฝา ตั้งไฟให้ต่ำที่สุด ทิ้งไว้ 20 นาที ระวังอย่าให้น้ำเดือด เพราะจะทำให้กลิ่น สี และสารสำคัญสูญสลายได้
  5. จะสังเกตเห็นว่า กลีบกุหลาบจะซีดลง ส่วนน้ำจะเริ่มมีสีเข้มขึ้น
  6. กรองกลีบออก แล้วเก็บน้ำกุหลาบไว้ในขวดที่มีฝาปิด เก็บไว้ในตู้เย็น
  7. ควรใช้ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์


วิธีเตรียน้ำกุหลาบ ด้วยการบดกลีบกุหลาบ (crushed petals)  

  1. แบ่งกลีบกุหลาบสด ที่ล้างสะอาดแล้ว ออกเป็น 2 กอง
  2. บดกลีบกุหลาบสดกองแรกให้ละเอียด ด้วยโกร่งและลูกโกร่ง
  3. ในขณะที่บด น้ำจากกลีบกุหลาบจะค่อย ๆ ออกมา หรืออาจจะคั้นน้ำด้วยตะแกรงกรองก็ได้
  4. นำกลีบกุหลาบที่บดแล้ว ใส่ไว้ในโหลแก้ว หรือภาชนะเซรามิค น้ำกุหลาบจะออกมามากยิ่งขึ้น
  5. ใส่กลีบกุหลาบสดอีกกองลงไปในโหล ในข้อ 4 คนเล็กน้อย แล้วปิดฝา ปล่อยทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง
  6. เมื่อครบ 24 ชั่วโมงแล้ว ให้นำไปตั้งอุ่น โดยใช้ไฟต่ำสุด โดยใช้กระทะเซรามิค ห้ามใช้กระทะโลหะเด็ดขาด เพราะอาจมีปฏิกิริยากับน้ำมันกุหลาบได้
  7. กรองเอากากออก จะได้น้ำกุหลาบเข้มข้น ทิ้งไว้กลางแสงแดดสัก 2 ถึง 3 ชั่วโมง แสงแดดจะทำให้สารในน้ำกุหลาบออกมามากยิ่งขึ้น
  8. เก็บในตู้เย็น ควรใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์


คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับการทำน้ำกุหลาบ

  • ควรใช้ดอกกุหลาบที่ปราศจากสารปราบศัตรูพืช
  • ถ้าต้องการทำน้ำกุหลาบสำหรับการประกอบอาหาร ควรเลือกใช้สายพันธุ์กุหลาบที่ใช้รับประทานได้ ได้แก่ Rosa damascene หรือ Rosa centifolia และ Rosa gallica
  • กลิ่นของน้ำกุหลาบขึ้นกับสายพันธุ์ของกุหลาบ ถ้าต้องการกลิ่นที่แรง ก็ควรเลือกใช้กุหลาบสายพันธุ์ที่ให้กลิ่นแรง
  • กลิ่นของกุหลาบแต่ละสายพันธุ์แตกต่างกัน การทำน้ำกุหลาบจากกุหลาบหลาย ๆ สายพันธุ์ อาจทำให้กลิ่นผสมกันได้
  • ในการทำน้ำกุหลาบ ควรใช้น้ำกลั่นเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงแบคทีเรีย ที่อาจทำให้น้ำกุหลาบเสียได้เร็วขึ้น
  • ห้ามใช้ขวดบรรจุที่เป็นโลหะ เพราะน้ำมันหอมระเหยสามารถทำปฏิกิริยากับโลหะได้

แจกสูตรเบสครีม สำหรับทำโลชั่น ครีมทาผิว

ครูดานิ เชื่อว่า มีหลายคนที่อยากทำครีมใช้เอง  แต่ติดที่ว่ายังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสาร   ตัวนี้เลยคะ  Cetyl Alcohol   ซิทิล แอลกอฮ...